การปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์และเศรษฐกิจสมุนไพรกัญชา
การปลูกกัญชาเชิงพาณิชย์ในประเทศไทย
1. เงื่อนไขการปลูก
- ต้องจดแจ้ง/ขึ้นทะเบียน กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.)
- ปลูกเพื่อวัตถุประสงค์ทางการแพทย์ อาหาร เครื่องสำอาง หรือการวิจัย
- สามารถปลูกในครัวเรือนหรือในระบบฟาร์มขนาดใหญ่
- การขายส่วนที่มี “THC สูง” เช่น ดอกกัญชา ต้องมีใบอนุญาตพิเศษ
2. รูปแบบการปลูก
- กลางแจ้ง: เหมาะกับเกษตรกรรายย่อย ต้นทุนต่ำ
- ในโรงเรือน (Greenhouse): ควบคุมแสงและความชื้นได้ดี
- ระบบปลูกในอาคาร (Indoor Farm): คุณภาพสูงสุด แต่ต้นทุนสูงมาก
การใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ
1. วัตถุดิบในอุตสาหกรรม
- อาหาร/เครื่องดื่ม: ชากัญชา ขนม เบเกอรี่ เครื่องดื่มผสม CBD
- ยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพ: ยาสมุนไพร น้ำมันกัญชา แคปซูล
- เครื่องสำอาง: โลชั่น ครีมทาผิว แชมพูผสมสารสกัดจากกัญชา
- สัตว์เลี้ยง: ผลิตภัณฑ์ CBD สำหรับสัตว์เลี้ยงเริ่มได้รับความนิยม
2. โอกาสทางธุรกิจ
- ฟาร์มกัญชาเพื่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ
- คลินิกกัญชาแผนไทย / การแพทย์ทางเลือก
- อีคอมเมิร์ซสินค้า CBD ทั้งในและต่างประเทศ
- การส่งออก: หากควบคุมคุณภาพได้ตามมาตรฐานสากล (GACP, GMP)
ความท้าทายและความเสี่ยง
| ความท้าทาย | รายละเอียด |
|---|---|
| กฎหมายยังไม่ชัดเจน | การออกกฎหมายถาวร (พ.ร.บ.กัญชา) ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา |
| ความเข้าใจของผู้ปลูก | หลายรายขาดความรู้ด้านสายพันธุ์ การดูแล หรือการแปรรูป |
| การตลาดและการแข่งขัน | สินค้าเริ่มล้นตลาด ราคาดิ่งลงในบางพื้นที่ |
| ความกังวลของสังคม | เรื่องการใช้ในทางที่ผิด และผลกระทบต่อเยาวชน |
ตัวอย่างศักยภาพทางเศรษฐกิจ
- ตลาดกัญชาทั่วโลก (ปี 2024): มูลค่ากว่า 60,000 ล้านดอลลาร์
- ประเทศไทยตั้งเป้าเป็น “ฮับสมุนไพรกัญชาอาเซียน”
- กรมการแพทย์แผนไทยส่งเสริม ตำรับยากัญชาแผนไทย เพื่อขยายตลาด

